ประเพณีบูชาเสาอินทขีล หรือที่เรียกว่า “เข้าอินทขีล” นับเป็นประเพณีของชาวเชียงใหม่ที่โดดเด่นเป็นประจำทุกๆ ปี ซึ่งหากจะกล่าวโดยสังเขปแล้ว เสาอินทขีล เป็นเสาปูนปั้นตั้งอยู่กลางวิหารอินทขีลในวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร แต่เดิมมีเฉพาะเสาล้วนๆ ต่อมามีการประดับกระจกตกแต่งให้สวยงาม แล้วนำพระพุทธรูป ขึ้นประดิษฐานบนเสานั้น
ด้านความเป็นมา มีตำนานเล่าว่า เดิมเสาอินทขีลเป็นเสาหินที่อยู่บนสวรรค์ พระอินทร์สั่งให้กุมภัณฑ์สองตนนำมาตั้งไว้ในเมืองนพบุรี (เชียงใหม่) เพื่อบันดาลโชคลาภและป้องกันภัย ต่อมาผู้คนกระทำการอันเป็นการไม่ให้ความเคารพต่างๆ นานา กุมภัณฑ์ไม่พอใจจึงหามกลับเมืองสวรรค์ เมื่อชาวเมืองเดือดร้อนก็ไปขอพระอินทร์อีก คราวนี้พระอินทร์แนะนำชาวเมืองก่อเองโดยให้หล่ออ่างขาง (กะทะ) ขนาดใหญ่ แล้วให้หล่อรูปคนให้ได้ “ร้อยเอ็ดเจ็ดภาษา” คือผู้คนนานาชาติพันธุ์ หล่อรูปสัตว์ต่างๆ อาทิ ช้าง ม้า วัว ควาย เป็ด ไก่ หมู หมา แพะ แกะ กวาง ลิง รวมทั้งปลา ปู หอย กุ้ง จระเข้ มังกร ตลอดจนตะขาบ แมลงป่อง ลงใส่ในอ่างขาง จากนั้น ให้ขุดดินฝังอ่างขางนั้นลึกลงดินถึง 9 ศอก แล้วก่อรูปเสาอินทขีลบนดินนั้น เพื่อไว้เป็นที่สักการะบูชาแก่ชาวเมือง
เมื่อได้รับคำแนะนำเช่นนั้น ชาวเมืองจึงพากันสร้างเสาอินทขีลขึ้นใหม่ แล้วกระทำการสักการะบูชาเป็นประจำทุกปีในช่วงต่อกันระหว่างเดือนแปดกับเดือนเก้าเหนือที่เรียก “เดือนแปดเข้า เดือนเก้าออก” โดยที่การบูชาจะเน้นใช้ดอกไม้วางบน “ขัน” คือ พานดอกไม้ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “ใส่ขันดอก”
กล่าวถึงในแง่ของการปฏิบัติ นอกจากจะมีการบูชาเสาอินทขีลแล้ว ประชาชนจะสักการบูชารูปเคารพอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณวัด เช่น รูปกุมภัณฑ์ รูปช้าง รูปฤาษี พระสังกัจจายน์ พระนอน ตลอดจนสรงน้ำพระธาตุเจดีย์หลวงในโอกาสเดียวกันด้วย ซึ่งการปฏิบัติเช่นนี้ได้ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน จนกลายเป็นประเพณีสำคัญอีกประเพณีหนึ่งของชาวเชียงใหม่จวบจนกระทั่งปัจจุบัน
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-22 พฤษภาคม 2566 และ วันที่ 23 พฤษภาคม เป็นวันออกอินทขีล
•••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
เรียบเรียงและภาพถ่ายโดย : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ เทศบาลนครเชียงใหม่
ข้อมูล : สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและล้านนาสร้างสรรค์